ใส่แพมเพิส ขาโก่ง ความเชื่อนี้จริงหรือมั่ว มาดูกัน


อีกหนึ่งความเชื่อที่ใคร ๆ ต่างก็บอดเล่าต่อ ๆ กันมา จนทำให้คุณแม่เกิดความกังวลใจไม่น้อย นั่นก็คือการใส่แพมเพิส ทำให้ขาโก่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังไม่มีการศึกษาหรืองานวิจัยใด ๆ ที่ยืนยันได้ว่าการใส่แพมเพิสนั้นทำให้ลูกน้อยขาโก่ง แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เด็กขาโก่ง? เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า

สาเหตุที่ทำให้ขาโก่ง

อาการขาโก่งในเด็กทารกนั้นอาจมาจาก 2 ปัจจัย นั่นก็คือปัจจัยด้านพันธุกรรม หรืออีกปัจจัยหนึ่งคือความผิดปกติของกระดูก ซึ่งปัจจัยหลังนี้อาจเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ตั้งแต่เกิด และนอกจากนี้อาการขาโก่งอาจจะเกิดขึ้นได้ในขณะที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์น้อง เพราะในท้องคุณแม่มีพื้นที่เพียงจำกัด เมื่อเด็กเจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น ก็อาจจะทำให้ต้องงอตัว

โดยปกติเด็กทารกอยู่ท่าขัดสมาธิและงอตะโพก เมื่อคลอดแล้วจึงดูเหมือนขาโก่ง แต่ตามธรรมชาติแล้วจะค่อย ๆ คลายตัวและหายไปเองเมื่อเด็กอายุได้ 2-3 ขวบ

อาการขาโก่งนั้นอาจเกิดขึ้นได้ในเด็กร้อยละ 1 เท่านั้น ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากโรคกระดูก หรือเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก  การดูว่าเด็กขาโก่งจนผิดปกติจริงหรือไม่ สามารถดูได้ง่ายจากอวัยวะภายนอกในร่างกายส่วนอื่น ๆ เด็กที่มีรูปขาผิดปกติ มักจะพบความผิดปกตินี้ที่แขน หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกายด้วยเช่นเดียวกัน เช่น เท้าบิดชี้เข้าด้านใน ตัวเตี้ยผิดปกติ เป็นต้น

ความเชื่อผิด ๆ ที่ทำให้คุณแม่เป็นกังวล

ตามข้อมูลในปัจจุบันนั้น ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ว่ายังไม่มีการศึกษาหรืองานวิจัยไหนที่ยืนยันว่าการใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปจะมีผลเสียต่อการพัฒนาของขาและข้อสะโพกของเด็ก ซึ่งหากมองในข้อเท็จจริงแล้วนั้น ผ้าอ้อมสำเร็จรูปหรือแพมเพิสนั้น มีความยืดหยุ่นสูง และมีความนิ่ม จึงทำให้โอกาสที่จะส่งต่อการพัฒนาของกระดูกของเด็กทารกนั้นมีน้อยมาก

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นน้ำหนักตัวก็มีสำคัญ เพราะเด็กที่น้ำหนักมากเกินไป เด็กก็จะอาจขาโก่งได้ เพราะน้ำหนักที่มากเกินไปจะไปกดทับลงไปที่ขา จึงอาจทำให้ขาโก่งได้ ซึ่งสาเหตุนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการลดน้ำหนัก

แต่ท่านั่งและท่านอนก็สำคัญไม่แพ้กัน หากปล่อยให้ลูกนั่งในลักษณะขาที่เป็นรูปตัว W ก็อาจจะทำให้ข้อสะโพกผิดปกติได้ และอีกสาเหตุหนึ่งก็คือเป้อุ้ม หรืออุปกรณ์ที่ช่วยในการอุ้มเด็ก หากเป้อุ้มนั้นทำให้เด็กนั่งห้อยขามากจนเกินไป ข้อสะโพกก็อาจจะมีปัญหาได้

วิธีพิจารณาว่าลูกมีขาโก่งจริง ๆ หรือไม่

วิธีการสังเกตว่าลูกน้อยมีอาการขาโก่งหรือไม่นั้น เบื้องต้นคุณแม่สามารถสังเกตได้โดยให้ลูกลองเหยียดเข่าให้ตรงสุด หันลูกสะบ้าบริเวณหัวเข่าตรงมาด้านหน้า นำข้อเท้ามาชิดกัน โดยช่องว่างระหว่างขอบด้านในของเข่าไม่ควรห่างเกิน 2 นิ้ว หรืออย่างช้าควรตรวจก่อนอายุ 3 ปี หรือถ้านำข้อเท้ามาชิดกันแล้ว แต่สังเกตได้ว่าหัวเข่าของลูกซ้อนกันหรือเกยกัน ควรพาลูกมาตรวจกับแพทย์ เพราะลูกอาจจะมีความผิดปกติทางกระดูกได้ และเมื่อตรวจพบไว ก็จะสามารถทำการรักษาได้ทันท่วงทีนั่นเอง

ส่วนการสังเกตลูกในวัยเดิน แนะนำให้คุณแม่สังเกตการเดินของลูกดูว่าลูกเดินสะดวกเป็นปกติดีหรือไม่ มีอาการกระเผลก หรือว่ามีอาการเท้าปุกด้วยหรือไม่ หากสังเกตพบความผิดปกติดังกล่าว ให้พาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้ละเอียด และสำหรับเด็กที่เดินสะดวก อาจจะมีอการเท้าโก่ง แต่ถ้ายังอยู่ในช่วงอายุไม่เกิน 2 ขวบ และไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย ให้คิดว่าเป็นธรรมชาติของเด็ก ไม่ควรวิตกมากเกินไป ให้รอดูอาการไปก่อน เพราะเมื่ออายุมากขึ้น กระดูกจะเข้าที่และจะสามารถเดินได้ปกติเหมือนคนทั่วไป

แต่เมื่อเริ่มสังเกตว่าลูกมีความผิดปกติ หรือรู้ว่าลูกมีอาการขาโก่ง ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะเมื่อลูกน้อยโตขึ้น ขาจะยิ่งโก่งมากขึ้น และจะส่งผลทางสุขภาพตามมา นั่นก็คือจะมีอาการเจ็บปวดตรงหัวเข่า และข้อเข่าจะเสื่อมได้ง่ายกว่าคนทั่วไป

และที่สำคัญมากกว่านั้น คุณแม่ไม่ควรรักษาอาการขาโก่งของลูกด้วยตัวเอง หรือทำตามจากที่เล่ากันมาปากต่อปากว่า หากลูกขาโก่ง ให้ทำการบิดเท้าและดัดขาให้ลูก เพราะในความเป็นจริงเท้าและขาของลูกอาจจะยังไม่เจริญเข้าที่ และการดัดแบบไม่ถูกวิธีก็อาจจะทำให้ลูกน้อยเจ็บเท้า อาจทำให้ขาผิดรูป และส่งผลเสียระยะยาว หากคุณแม่เห็นว่าลูกขาโก่งมากและกังวลไม่หาย ควรพาลูกไปพบแพทย์ เพื่อให้ช่วยตรวจให้แน่ใจดีว่ากระดูกขาผิดปกติจริงหรือไม่ เพื่อให้ลูกได้รับการดูแลและรับการรักษาที่ถูกต้อง

วิธีแก้ทำอย่างไร เมื่อเข้าใจว่าการใส่แพมเพิสทำให้ขาโก่ง

ความเชื่อที่ว่าการใส่แพมเพิสเด็กทำให้ลูกขาโก่งมากกว่าปกตินั้น อาจเป็นไปได้ว่าคุณแม่อาจเลือกใช้แพมเพิสที่ไม่กระชับ หรือซึมซับได้ไม่ดีพอ ทำให้ตัวแพมเพิสดูพองใหญ่จนห้อยตุงออกมาผิดปกติเมื่อลูกขับถ่ายใส่แพมเพิส

ทางแก้คือควรเลือกแพมเพิสคุณภาพดี ที่มีเนื้อผ้า เบาบาง กระชับ ซึมซับดี ทดแทนค่ะ และไม่ควรปล่อยให้ปัสสาวะค้างอยู่ในผ้าอ้อมหรือแพมเพิสเป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนเมื่อเต็มหรือทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการถ่วงน้ำหนัก และป้องกันความสกปรกและความไม่สบายตัวของลูกน้อยค่ะ

จากประสบการณ์ของฉัน ซึ่งตอนนี้มี ลูก 2 คนแล้ว ฉันเลือกที่จะใส่แพมเพิสแบบกางเกง สวมใส่ ให้กับลูก มันดีกว่าแบบแถบกาวปิดนะคะ และก็ช่วยป้องกันการหนีบรัดของแพมเพิสทำให้เป็นรอยกดทับได้ดีกว่าแถบเหมือนสติ๊กเกอร์ปิด ไม่ทำให้ขาของลูกน้อย คดงอ จากการรัดของแพมเพิสด้วยค่ะ แพมแบบสวมใส่กางเกงมีลักษณะที่บางกว่า เสมือนเราใส่กางเกงใน เป็นอะไรที่สะดวกสำหรับพ่อแม่ และลูกน้อยเอง

ฉันเลือกใช้ แพมเพิส ของ 2 แบรนด์นี้ คือ MamyPoko pants และ BabyLove Smile pants สำหรับกลางคืน และ กลางวัน. คุณภาพดีและราคาก็สมเหตุสมผลกับคุณภาพที่ลูกน้อยได้รับ . ปกติแล้วฉันจะสั่งเป็นจำนวนมาก 3 แพ๊คขั้นต่ำ ซึ่งจะได้ราคาที่ถูกกว่าราคาปกติ สนใจคลิกดูราคา ได้ค่ะ

…..อย่างไรก็ตาม คุณแม่อย่าตัดสินใจด้วยตัวเอง หรือฟังจากคนอื่นเล่ากันมา ว่าลูกจะขาโก่ง ก็เลยดัดขา บิดเท้าให้ลูกนะคะ ซึ่งความจริงแล้ว สรีระร่างกายของเด็กแต่ละคนต่างกัน เท้าและขาอาจจะยังไม่เข้าที่เข้าทางดีพอ ยิ่งเราไปดัดขาให้ลูกแบบไม่ถูกต้อง จะทำให้ลูกเจ็บเท้า ขาผิดรูปทรง แถมอาจมีผลต่อการเดินของลูกด้วยค่ะ หากคุณแม่ยังกังวลใจอยู่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุ และหาวิธีการดูแลที่ถูกต้องต่อไป

วิธีประหยัดแพมเพิส ที่คุณแม่มือใหม่ต้อวรู้!

Ploy

พลอยยินดีแบ่งปันข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก ซึ่งมาจากทั้งการค้นคว้าด้วยตัวเอง รวมถึงประสบการณ์ตรงจากการเลี้ยงลูกของพลอยเอง หากคุณแม่ท่านไหนกำลังมองหาข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก บล็อกนี้มีข้อมูลที่คุณแม่ต้องการค่ะ :)

Recent Posts