ฝึกลูกเดินอย่างไร ให้ลูกเดินเป็นเร็ว ๆ เหมาะสมตามพัฒนาการ


เมื่อพัฒนาการของลูกน้อยดำเนินมาถึงช่วงวัยหนึ่ง ๆ สิ่งที่คุณแม่อย่างเรา ๆ ดูจะตื่นเต้นมากที่สุดในชีวิต คือช่วงเวลาที่ลูกเริ่มหัดเดิน เพราะแต่ละฝีก้าวเล็ก ๆ ของเขา ทำให้เรารู้ว่าเขาเติบโตมากขึ้น และเริ่มมีความพร้อมที่จะเผชิญกับโลกกว้างแล้ว

และแน่นอนว่าก่อนที่ลูกจะเริ่มเดินได้นั้น คุณแม่ต้องฝึกลูกเดินเสียก่อน ซึ่งคุณแม่มือใหม่อาจไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มอย่างไรดี วันนี้เรามีคำตอบ

พัฒนาการของการเดิน

  • เริ่มจากการคลาน

ก่อนที่จะมาฝึกลูกเดินนั้น คุณแม่ต้องเข้าใจพัฒนาการของลูกเสียก่อน โดยก่อนที่ลูกจะเริ่มเดิน ลูกจะเริ่มจากการคลานก่อน แต่ทารกบางคนอาจข้ามขั้นตอนนี้และเริ่มยืนและเดิน การคลานจะช่วยให้ลูกเรียนรู้ที่จะเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง และเมื่อคลานได้แล้ว เด็กจะค่อย ๆ ยืนโดยการหาที่เกาะ

  • ค่อย ๆ เดินเกาะ 

หลังจากที่ลูกเริ่มยืนเกาะสิ่งต่าง ๆ แล้ว ลูกจะค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะเดินไปด้วย พร้อมกับเกาะสิ่งต่าง ๆ เมื่ออายุประมาณ 9-10 เดือน ซึ่งเด็กจะเริ่มเรียนรู้การทรงตัว และในระหว่างนี้คุณแม่อาจจะต้องระวังข้าวของตกใส่ลูกด้วย

  • เริ่มเดินแบบปล่อยมือ

หลังจากที่ลูกเริ่มมั่นใจว่าตัวเองสามารถเดินได้โดยไม่ต้องเกาะสิ่งต่าง ๆ ลูกจะค่อย ๆ เดินด้วยตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าอาจมีการล้มลุกคลุกคลานบ้าง คุณแม่ควรปล่อยให้ลูกเรียนรู้ที่จะลุกได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้ก้าวต่อไปของลูกมั่นคงมากยิ่งขึ้น โดยเด็กจะเริ่มเดินได้เองอย่างอิสระเมื่ออายุ 12-14 เดือน อย่างช้าที่สุดคือ 18 เดือน

คุณแม่ก็ช่วยส่งเสริมการฝึกเดินของลูกได้

แน่นอนว่าการเดินอาจไม่ใช่สิ่งที่ลูกต้องเผชิญอยู่ฝ่ายเดียว ในฐานะคนเป็นแม่นั้น จึงมีส่วนช่วยให้ลูกได้ฝึกเดินอย่างถูกต้อง ซึ่งสิ่งที่คุณแม่สามารถส่งสเริมให้ลูกฝึกเดิน สามารถทำได้ดังนี้

ดูแลเรื่องความปลอดภัย

ความปลอดภัยควรเป็นสิ่งที่คุณแม่ควรตระหนักถึงเป็นอันดับแรก เพราะเด็กเล็ก ๆ เมื่อเริ่มหัดเดินนั้น อาจจะมีการเกาะเฟอร์นิเจอร์ หรือเกาะสิ่งต่าง ๆ ตามแต่ที่เขาจะสามารถคว้าไว้ได้ ดังนั้นอาจเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดี หากคุณแม่ตรวจสอบเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ให้แข็งแรงมั่นคง เมื่อลูกเกาะจะได้ไม่ล้มลงมาทับลูก อีกทั้งยังควรระวังของมีคมหรือขอบโต๊ะต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บได้

จัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมแก่การฝึกเดิน

นอกจากเรื่องของความปลอดภัยแล้ว การจัดสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวลูกให้เหมาะสมกับการฝึกเดินยังเป็นอะไรที่ควรใส่ใจ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ลูกสามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ ลองจัดมุมต่าง ๆ ภายในบ้านให้ดึงดูดและน่าสนใจ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ลูกเดินไปเดินมา ดีกว่าจมปุ๊กอยู่หน้าทีวี ทำให้ลูกไม่อยากฝึกเดินนะคะ

ใช้เวลาไปกับลูก

การมีเวลาเล่นกับลูก ใช้เวลากับลูกเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด เพราะเมื่อคุณแม่ได้ใช้เวลาร่วมกับลูก ลูกจะเกิดความมั่นคง ปลอดภัย และไว้ใจแม่ ทำให้พัฒนาการของลูกดี และทำให้ลูกสามารถฝึกเดินได้อย่างไร้กังวล

เคล็ดลับช่วยฝึกลูกเดิน ให้ลูกเดินได้ เหมาะสมกับพัฒนาการ

เมื่อลูกเริ่มเดินได้บ้างแล้ว ความหวังของคุณแม่ก็คือการที่ลูกสามารถเดินได้อย่างคล่องแคล่ว และแน่นอนว่าการที่ลูกจะเดินได้คล่องนั้น คุณแม่อาจจะต้องเรียนรู้เคล็ดลับนิด ๆ หน่อย ๆ 

เคล็ดลับที่ 1 ใช้ของเล่นมาล่อ

เคล็ดลับนี้นอกจากจะสามารถใช้กับเด็ก ๆ ที่เพิ่งเริ่มหัดเดินแล้ว ยังสามารถใช้ได้กับเด็กที่เพิ่งเริ่มหัดคลานด้วย เพราะเป็นการช่วยกระตุ้นให้เด็กเคลื่อนไหว โดยคุณแม่สามารถวางของเล่นให้ลูกเกินระยะที่ลูกจะเอื้อมถึง ลูกจะพยายามลุกเดินเพื่อไปหาของเล่นเหล่านั้น แต่หากคุณแม่กังวลเรื่องความปลอดภัยของลูก คุณแม่สามารถหาเบาะรองนุ่ม ๆ มารองได้

เคล็ดลับที่ 2 ช่วยประคองเดิน

เมื่อลูกยืนเองได้แล้ว แต่ยังลังเลและไม่สามารถก้าวขาเดินเองได้อย่างมั่นใจ คุณแม่สามารถเข้าไปช่วยประคองลูกได้ เพื่อเป็นการช่วยให้ลูกน้อยสามารถเรียนรู้การทรงตัว

นอกจากคุณแม่จะช่วยประคองแล้ว ยังมีสิ่งของที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการประคองลูก เพื่อให้ลูกสามารถฝึกเดินได้อย่างปลอดภัย

เข็มขัดพยุงเด็ก Baby Walking Harnesses

เข็มขัดช่วยพยุงเด็ก ช่วยในการหัดเดิน ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่ขาดง่าย มอบความปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ ในวัยกำลังหัดเดิน เพราะการพยุงแขนของลูกอาจทำให้ลูกปวดหลังได้ เข็มขัดพยุงเพื่อหัดเดินช่วยแก้ไขปัญหาการปวดหลังจากการพยุงเพื่อหัดเดิน สามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ระคายเคืองผิวของลูกน้อย อีกทั้งยังไม่ทำให้ลูกรู้สึกเจ็บอีกด้วย

เคล็ดลับที่ 3 ฝึกเดินด้วยเท้าเปล่า

เมื่อลูกอยู่ในวัยหัดเดิน คุณแม่ไม่จำเป็นต้องหาซื้อรองเท้าสำหรับใส่หัดเดินให้ลูกเลยค่ะ เพราะการฝึกเดินที่ดีที่สุดคือการเริ่มเดินด้วยเท้าเปล่า เป็นการกระตุ้นให้เด็กใช้กล้ามเนื้อขาและข้อเท้า และการเดินเท้าเปล่ายังช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะทรงตัวและทำความคุ้นเคยเกี่ยวกับการทำงานประสานงานต่าง ๆ ของอวัยวะต่าง ๆ ยกเว้นว่าจะพาลูกออกไปฝึกเดินนอกบ้าน ซึ่งแนะนำให้หารองเท้าที่มีน้ำหนักเบาและสวมใส่สบายขณะฝึกเดินค่ะ

เคล็ดลับที่ 4 ใช้อุปกรณ์ช่วย

คุณแม่อาจใช้รถเข็นที่ช่วยให้ลูกได้ลองหัดเดิน เพื่อให้ลูกได้เรียรู้ที่จะควบคุมการเคลื่อนไหวและทิศทางได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งอุปกรณ์เหล่านี้ยังช่วยให้เด็กเรียนรู้การทรงตัวและเข้าใจการเดินมากขึ้นได้ด้วยตัวเอง

การเลือกรถหัดเดินสำหรับเด็กนั้นควรเลือกที่มีความแข็งแรง ทนทาน มีที่จับ และมีล้อขนาดใหญ่ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกขณะเดิน 

Dekdeebaby รถหัดเดิน หน้าหมีเท็ดดี้ มีเสียงดนตรี

รถหัดเดินราคาประหยัด มาในราคาสุดคุ้ม มีความแข็งแรง ทนทาน มีเสียงดนตรีประกอบ มอบความเพลิดเพลินขณะหัดเดินให้กับคุณหนู ๆ เหมาะสำหรับเด็กอายุ 5 เดือนขึ้นไป ตัวรถมี 6 ล้อ เพิ่มความปลอดภัยขณะหัดเดิน อีกทั้งยังมาพร้อมกับของเล่นที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการ และเบาะรองนั่งสามารถถอดออกมาซักทำความสะอาดได้ง่าย

ไม่ว่าลูกจะเริ่มหัดเดินตอนไหน สิ่งที่คุณแม่ควรคำนึงถึงคือความปลอดภัย และการไม่กดดันเร่งให้ลูกเริ่มเดินไวเกินกว่าพัฒนาการของเขานะคะ นอกจากนี้การได้เข้ามามีส่วนร่วมในขณะที่ลูกฝึกเดิน ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่ลูก ดังนั้น ใช้ช่วงเวลาดี ๆ กับลูกอย่างคุ้มค่า จะช่วยให้ลูกเติบโตมาเป็นเด็กที่มีคุณภาพนะคะ

Ploy

พลอยยินดีแบ่งปันข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก ซึ่งมาจากทั้งการค้นคว้าด้วยตัวเอง รวมถึงประสบการณ์ตรงจากการเลี้ยงลูกของพลอยเอง หากคุณแม่ท่านไหนกำลังมองหาข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก บล็อกนี้มีข้อมูลที่คุณแม่ต้องการค่ะ :)

Recent Posts