สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่แล้ว การอาบน้ำให้เด็กทารกนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่และอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลได้ แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะหากเราคุ้นชินกับการอาบน้ำให้เด็กทารกแล้ว รับรองว่าครั้งต่อไปจะเป็นเรื่องง่ายอย่างแน่นอน และอีกหนึ่งคำถามที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่มักจะเป็นกังวลคือความถี่ในการอาบน้ำ และช่วยเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการอาบน้ำ ว่าควรจะอาบน้ำให้ลูกกี่โมงดี วันนี้เรามีบทความดี ๆ ที่จะมาช่วยไขข้อข้องใจ และช่วยตอบคำถาม พร้อมเติมเต็มความรู้ให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ค่ะ เริ่มอาบน้ำครั้งแรกให้ลูกตอนไหนดี สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่อาจจะยังงง ๆ ว่าตอนไหนคือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการอาบน้ำครั้งแรกให้กับเจ้าทารกตัวน้อย คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ส่วนใหญ่เมื่อเห็นว่าทารกเพิ่งคลอดมีไขที่ห่อหุ้มตัวเด็กทารกอยู่ก็มักจะเข้าใจว่าไขเหล่านั้นมีความสกปรก เลยจับลูกอาบน้ำเสียเลย… แต่การทำเช่นนั้นถือว่าผิดค่ะ! หากเห็นไขห่อหุ้มตัวลูกน้อยแล้วจับอาบน้ำทันที อาจะเป็นการอาบน้ำให้ลูกน้อยไวเกินไป แถมยังเป็นการทำลายไขดี ๆ ที่ห่อหุ้มตัวเด็กอีกด้วย เพราะไขเหล่านั้นมีประโยชน์มากมายกับเด็กค่ะ ไขเหล่านั้นทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันให้กับทารกแรกเกิด อีกทั้งยังช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของเด็กทารก อาบน้ำทารกกี่โมง ถึงจะดี สำหรับการเลือกช่วงเวลาในการอาบน้ำให้กับเด็กทารกนั้นควรเลือกช่วงเวลาที่ลูกไม่ง่วงนอน หรือลูกตื่นนอนแล้ว ไม่ควรปลุกลูกให้ตื่น แต่ควรรอให้เขาตื่นแล้วเต็มที่ก่อน เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ลูกตกใจและทำให้เกิดอาการป่วยได้ สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการอาบน้ำให้กับเด็กทารกนั้นควรเลือกตามสภาพอากาศ หากอากาศร้อนมาก ๆ อาจจะต้องอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง แต่โดยทั่วไปหากลูกยังเล็กมาก ๆ อาบน้ำให้เขาวันละ 1 ครั้งก็เพียงพอ ช่วงเวลาในการอาบน้ำที่เหมาะสมที่สุดอาจจะเป็นช่วง 10 โมงเช้า หรือสักประมาณบ่าย 3-4 โมงเย็น ถือว่ากำลังดี หากช่วงไหนอากาศเย็น ก็อาบน้ำให้ลูกวันละ 1 ครั้งก็เพียงพอค่ะ ข้อควรรู้เกี่ยวกับการอาบน้ำให้เด็กทารก สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ การอาบน้ำให้ลูกน้อยอาจฟังดูเป็นเรื่องที่น่ากลัวและน่ากังวลใจ ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจและศึกษาเกี่ยวกับข้อควรรู้ในการอาบน้ำให้เด็กทารกกันเสียหน่อยดีกว่าค่ะ ไม่ควรให้ลูกลงอ่างในขณะที่สายสะดือยังไม่หลุด เด็กทารกเป็นอะไรที่บอบบางมาก ๆ ดังนั้น การดูแลในเรื่องของสุขอนามัยต่าง ๆ ควรทำอย่างอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กทารกที่สายสะดือยังไม่หลุด ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะให้ลูกลงอ่างอาบน้ำ เพราะควมสกปรกในอ่างอาบน้ำอาจทำให้ลูกเกิดอาการติดเชื้อได้ ตรวจสอบอุณหภูมิของน้ำให้พอดี การอาบน้ำให้เด็กทารกนั้นไม่ควรอาบน้ำเย็นหรืออุ่นมากจนเกินไป แต่ควรตรวจสอบอุณหภูมิให้น้ำอุ่นพอดี ๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบอุณหภูมิของน้ำได้โดยใช้หลังมือแตะที่ผิวน้ำ หากรู้สึกว่าสบายผิวแล้วก็สามารถอาบน้ำให้ลูกได้เลยค่ะ ความถี่ในการอาบน้ำให้เด็กทารก ในความเป็นจริงแล้วผิวของเด็กทารกนั้นไม่ได้สกปรกอย่างที่หลาย ๆ คนคิดค่ะ ดังนั้นอาจจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอาบน้ำให้ลูกบ่อย ๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นควรพิจารณาจากสภาพอากาศในขณะนั้น หากอากาศร้อนอาจจะเพิ่มความถี่ในการอาบน้ำได้ แต่หากอากาศเย็นก็อาจจะไม่จำเป็นต้องอาบน้ำทุกวันก็ได้ อาจจะอาบสัก 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และเน้นทำความสะอาดเฉพาะจุดเอาก็ได้ค่ะ ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำมากจนเกินไป ผิวของเด็กทารกยังมีความบอบบาง นอกจากจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวที่สุดแล้ว ยังไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ลูกน้อยผิวแห้ง หรือเกิดอาการระคายเคืองได้ ผิวของเด็กมีน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องบำรุงอะไรมากมาย เพราะสารเคมีอาจทำร้ายผิวลูก ควรใช้เมื่อยามจำเป็นหรือเมื่อยามที่ผิวแห้งจริง ๆ เท่านั้น นอกจากจะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจในการอาบน้ำให้เด็กทารกแล้ว ก็ยังมีสิ่งที่ควรระวังในการอาบน้ำให้เด็กทารกด้วยเช่นเดียวกัน โดยข้อควรระวังในการอาบน้ำให้เด็กทารก มีดังนี้ ไม่ควรปล่อยให้เด็กทารกอยู่ในอ่างอาบน้ำเพียงลำพัง เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุเสี่ยงต่อความปลอดภัยของลูกน้อยได้ น้ำที่ใช้อาบไม่ควรเย็นหรืออุ่นจนเกินไป แต่ควรเป็นอุณหภูมิที่พอดี เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บป่วยและหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เด็กทารกเกิดผิวแห้ง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและสระผมที่มีความอ่อนโยนที่สุด ถ้าจะให้ดี เลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากธรรมชาติจะดีที่สุด ระวังอย่าให้น้ำหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เข้าตา หรือเข้าหู เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง ในกรณีที่ทารกมีผิวแห้ง ลอกเป็นขุย ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำเยอะจนเกินไปเพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้ง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรเจือจางผลิตภัณฑ์กับน้ำสะอาดให้บางเบามากที่สุด การอาบน้ำให้เด็กทารกนั้นไม่ยากจนเกินความสามารถของคุณพ่อคุณแม่อย่างแน่นอนค่ะ เพียงแค่ต้องทำการเรียนรู้นิด ๆ หน่อย ๆ หมั่นสังเกตอาการของผิว และสภาพอากาศสักนิด ศึกษาหาข้อมูลเรื่อย ๆ เพียงเท่านี้การอาบน้ำให้เจ้าตัวเล็กก็จะเป็นเรื่องง่าย และเป็นช่วงเวลาดี ๆ สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ และทารกน้อยนะคะ
สำหรับคุณแม่มือใหม่คงมีความกังวลไม่น้อยเกี่ยวกับการอาบน้ำให้ทารก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทารกแรกเกิดที่มีผิวที่บอบบาง จึงต้องการความอ่อนโยนและความเบามือขั้นสุดจากคุณแม่ และไม่ต้องกังวไปค่ะ ว่าการอาบน้ำของคุณแม่นั้นจะทำให้ทารกเกิดอาการไม่สบายตัว หรือกังวลว่าจะทำให้ลูกน้อยบาดเจ็บ เพราะในวันนี้เรามีเคล็ดลับการอาบน้ำให้เด็กทารกมาฝากเหล่าคุณแม่มือใหม่ จะมีเคล็ดลับดี ๆ อะไรบ้างนั้น ตามมาดูเลยค่ะ อาบน้ำทารกวันละกี่ครั้ง ถึงจะเรียกว่าพอดี? สำหรับการอาบน้ำให้เด็กทารกนั้น จำนวนครั้งในการอาบน้ำที่เหมาะสมที่สุดจะขึ้นอยู่กับช่วงวัยของทารก ดังนี้ เด็กทารกแรกเกิด – 1 เดือน อาบน้ำวันละ 1 ครั้ง เช็ดตัว 1 ครั้ง สระผม 1 ครั้งเด็กทารกอายุมากกว่า 1 เดือนขึ้นไป อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง สระผม 1 ครั้ง แต่สำหรับในฤดูหนาวที่มีอากาศแห้งและเย็น อาจจะลดจำนวนการอาบน้ำลงมาเหลือวันละ 1 ครั้ง ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะต้องดูสภาพอากาศในแต่ละวันด้วย เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การอาบน้ำจึงเป็นกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำ เพื่อให้ลูกน้อยสะอาดและรู้สึกสบายตัว ข้อควรระวังในการอาบน้ำเด็ก สำหรับเด็กทารกที่มีผิวที่บอบบาง คุณแม่อาจจะต้องเบามือในการอาบน้ำ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย โดยสิ่งที่ต้องระมัดระวัง มีดังนี้ 1. ระวังอย่าให้น้ำเข้าหู เพราะเมื่อน้ำเข้าหู อาจจะทำให้ทารกเกิดอาการหูหนวกได้ 2. เลือกใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนที่สุด หรืออาจจะผสมน้ำให้เจือจาง เพื่อป้องกันการระคายเคืองที่ผิวหนัง 3. ระวังอย่าให้สบู่หรือยาสระผมเข้าตา 4. ระวังเมื่อต้องใช้สบู่ล้างมือให้เด็ก ควรล้างสบู่ออกให้สะอาด เพราะเด็กมักจะชอบดูดนิ้วตัวเอง หากล้างสบู่ออกไม่หมดอาจทำให้เกิดอันตรายต่อเด็กได้ 5. หากทารกมีผิวแห้งหรือผิวหนังลอก ไม่ควรใช้สบู่เยอะจนเกินไป ให้เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิที่เหมาะสม แล้วทาผิวด้วยโลชั่นหรือผลิตภัณฑ์ช่วยป้องกันผิวแห้งที่อ่อนโยนที่สุด 6. ก่อนอาบน้ำควรทดสอบความอุ่นของน้ำ ไม่ให้ร้อนหรือเย็นจนเกินไป ทีนี้เมื่อเราทราบแล้วว่าเราควรจะอาบน้ำให้เด็กทารกกี่ครั้งต่อวัน และทราบข้อควรระมัดระวังในการอาบน้ำให้เด็กทารกแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมอุปกรณ์ในการอาบน้ำให้เด็กทารกและเรียนรู้ขั้นตอนการอาบน้ำให้เด็กทารกอย่างถูกต้องค่ะ อุปกรณ์ที่ใช้ในการอาบน้ำให้เด็กทารก 1. กะละมังหรืออ่างอาบน้ำสำหรับเด็ก 2. ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและสระสำหรับเด็กทารก ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ สูตรที่อ่อนโยนที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้และระคายเคืองต่อผิว 3. ฟองน้ำสำหรับอาบน้ำเด็ก เลือกที่นุ่มที่สุด และไม่บาดผิวเด็กทารก 4. ผ้าขนหนูเช็ดตัว 5. น้ำที่ใช้อาบน้ำเด็ก ควรมีอุณหภูมิที่อุ่นพอดี ไม่เย็นหรืออุ่นมากจนเกินไป ขั้นตอนการอาบน้ำให้เด็กทารก สิ่งหนึ่งที่ต้องระมัดระวังในการอาบน้ำให้เด็กทารกคือความอ่อนโยนและเบามือในการอาบน้ำให้ได้มากที่สุด ระยะแรก ๆ ของคุณแม่มือใหม่อาจจะต้องมีผู้ช่วยในการประคองเด็กทารก อาจจะขอให้คุณพ่อ หรือใครก็ตามมาช่วยประคองตัวลูกน้อยในขณะที่คุณแม่ทำการอาบน้ำให้ โดยขั้นตอนการอาบน้ำให้เด็กทารกนั้น มีดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 เตรียมตัวก่อนอาบน้ำ ก่อนที่จะทำการอาบน้ำให้เด็กทารกต้องเตรียมตัวด้วยการถอดเสื้อผ้าและห่อตัวเด็กทารกด้วยผ้าขนหนูนุ่ม ๆ จากนั้นทดสอบอุณหภูมิของน้ำที่จะทำการอาบ โดยไม่ให้อุ่นหรือเย็นจนเกินไป ขั้นตอนที่ 2 ใช้สำลีทำความสะอาดซอกเล็ก ๆ ที่เข้าถึงได้ยาก ขั้นตอนต่อมาคือการใช้สำลีนุ่ม ๆ ที่ผิวสัมผัสไม่เป็นขุยง่ายมาชุบน้ำ และนำมาเช็ดทำความสะอาดที่บริเวณหน้า ใบหู และดวงตาให้ลูกน้อย และควรทำอย่างเบามือ ขั้นตอนที่ 3 การสระผม การสระผมให้เด็กทารกควรใช้มือข้างหนึ่งประคองศีรษะไว้ ใช้มืออีกข้างชโลมน้ำเปล่าที่บริเวณผมของลูก จากนั้นใช้แชมพูในปริมาณที่เล็กน้อยมานวดที่บริเวณศีรษะโดยใช้เวลาไม่นาน จากนั้นล้างออกด้วยการใช้ขันตักน้ำราดเบา ๆ ระวังอย่าให้ยาสระผมเข้าตา หลังจากนั้นใช้ผ้าขนหนูซับผมลูกให้แห้ง ขั้นตอนที่ 4 ฟอกสบู่ให้ลูก หลังจากสระผมเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการใช้สบู่เช็ดตามบริเวณร่างกายของลูก โดยเริ่มจากบริเวณซอกคอ ซอกขา ข้อพับต่าง ๆ จากนั้นค่อยถูทั้งตัว ใช้มือถูสบู่จะดีที่สุด แต่หากต้องการใช้ฟองน้ำ ควรเลือกฟองน้ำที่มีความนุ่ม เพื่อลดการบาดผิวและทำให้ผิวเด็กเกิดอาการระคายเคือง เมื่อถูสบู่เสร็จแล้ว ค่อย ๆ แช่เด็กลงในอ่างอาบน้ำอย่างช้า ๆ เบา ๆ อย่าให้เด็กตกใจ และกวักน้ำล้างตัวเพื่อชำระล้างสบู่ออกจากร่างกายให้สะอาดหมดจด ขั้นตอนที่ 5 เช็ดตัว ขั้นตอนสุดท้ายคือนำลูกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ ซับตัวให้แห้งด้วยผ้าขนหนูขนนุ่ม ๆ จากนั้นทาแป้งตามข้อพับและก้น เพื่อป้องกันความชื้นและลดผดผื่น จากนั้นจึงใส่เสื้อผ้าได้ การอาบน้ำให้ลูกน้อยเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามาก ๆ เพราะคุณแม่จะได้ใช้เวลาศึกษาเรียนรู้ในการดูแลลูกน้อยขณะอาบน้ำ และในระหว่างนั้นคุณแม่และลูกน้อยจะมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน และการอาบน้ำนั้นไม่ใช่เรื่องยาก คุณแม่จึงสบายใจได้และรับรองว่าเมื่อคุ้นเคยกับการอาบน้ำให้เด็กทารกแล้ว ในครั้งต่อ ๆ ไป จะมีความมั่นใจมากขึ้นอย่างแน่นอน